ชีวิตยับเยินยอกย้อน เดี่ยว...แท็กซี่อาสา

  • 11 พ.ค. 2563
  • 1486
หางาน,สมัครงาน,งาน,ชีวิตยับเยินยอกย้อน เดี่ยว...แท็กซี่อาสา

ถึงวันนี้มีคนรู้จัก สุวรรณฉัตร พรหมชาติ หรือเดี่ยว แท็กซี่ผู้มีน้ำใจ เจ้าของแท็กซี่ ทะเบียน มฏ 2840 กรุงเทพมหานคร ข้างรถติดสติกเกอร์ข้อความว่า “เชิญครับ ไปทุกที่...พระสงฆ์ สามเณร แม่ชี นิมนต์นั่งฟรี คนพิการ คนตาบอดนั่งฟรี” กันมากแล้ว

เดี่ยวทำมาแล้ว 20 ปี ปีแรกรับพระสงฆ์ สามเณร แม่ชี จอดรับตามป้ายรถเมล์ หน้าโรงพยาบาลสงฆ์ หน้าวิทยาลัยสงฆ์ รอบปริมณฑล จังหวัดใกล้เคียงส่งฟรีหมด

พระบางรูปเป็นนักเทศน์ ท่านเทศน์สอนไปด้วย แล้วท่านก็ให้เงิน

“ผมอธิษฐานจิตไว้ ขอไม่รับ” เดี่ยวว่า พระท่านก็อนุโมทนาพระบางรูป รู้ว่านี่เป็นการทำบุญ ก็อยากทำบุญ บอกโยมเอากล่องไว้ในรถบ้าง เดี่ยวบอกถ้าวางกล่องแล้ว คนไทยขี้เกรงใจ คนนั้นขึ้นมาก็หยอด คนนี้ขึ้นมาก็หยอด รถแท็กซี่ของเดี่ยวจะกลายเป็นรถเรี่ยไรไป

เริ่มจากรับส่งพระ เณร แม่ชี ฟรีได้ราวปีหนึ่ง จนไปถึงวันนั้น

เจอคนแก่นั่งรถเข็น ก็หยุดรับ ลุงพิการขึ้นรถน้ำตาคลอปรับทุกข์ว่า “อยากฆ่าตัวตาย” ลุงพูดซ้ำสองสามครั้ง เหตุเพราะเรียกแท็กซี่หลายคันไม่มีใครรับ ตั้งใจรับคนพิการฟรี นับมาแต่นั้น

มาถึงคนไข้ ที่เรียกรถไปโรงพยาบาล เดี่ยวอุ้มขึ้นรถทุกคน คนพิการมีเงิน อยากจะให้เงิน ยัดเงินให้ บอกว่าขอร่วมอนุโมทนาบุญ
เบอร์โทร.จองคิวรถ 08-7331-5421 เริ่มเป็นที่รู้จัก ช่วงหลังๆ ถูกเรียกไม่ได้หยุดเลย

แต่ละรายโทร.มา เดี่ยวจดลงสมุดทำประวัติ ให้โทร.มาช่วง 4 ทุ่มถึงเที่ยงคืน เพื่อจะรู้ว่าคิววันพรุ่งนี้ของคนนี้รอบเช้า คนนี้รอบบ่าย คนนี้รอบเย็น บางคนก็ทั้งไปทั้งกลับ

ทำเรื่องดีๆได้ขนาดนี้ ก็ยังมีคนไม่ดีหลอก

เดี่ยวโดนหลอกบ่อยๆ หลอกให้ไปรอที่หมอชิตตีสี่ หลอกให้ไปรอที่สุวรรณภูมิ

คนที่หลอกก็อ้างว่าเป็นคนพิการ แต่จริงๆไม่ได้พิการ “ทั้งหลอกทั้งจริง แต่ละวันสายเข้ามามากจนโทรศัพท์มือถือแฮงก์”

บางเวลาที่วิ่งรับคนทั่วๆไป มิเตอร์ขึ้นหลายร้อย บางคนก็ให้เกิน บางคนนั่งใกล้ๆให้ 500 เขาบอกว่าอยากร่วมบุญ เงินจำนวนนี้ เดี่ยวก็เลยอยู่ได้

เดี่ยวตื่นตีสาม-ตีสี่ ตอนมีคนป่วยที่ต้องไปโรงพยาบาล บางทีไม่ได้กินข้าวทั้งวัน อย่าถามว่าลำบากหรือไม่ ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เดี่ยวลำบากทุกข์ยากจนเคยตัวแล้ว

เดี่ยวเกิดที่นครศรีธรรมราช วัยเด็กมีแต่ความยากแค้น ไม่เคยเห็นหน้าพ่อ ส่วนแม่รับจ้างทั่วไป รายได้แทบไม่พอกิน ชุดนักเรียนเขาก็บริจาคให้ มีแต่รอยเย็บรอยปะทั้งตัว รองเท้าไม่เคยมีใส่ เวลาไปเรียน หอบสมุดหนังสือเดินเท้าเปล่าบนถนนลูกรัง วันละ 3-4 กิโลเมตร

หนีจากถนนลูกรัง เดินผ่านร่องสวนยาง บ่อยครั้งก็สะดุดรากต้นยางจนเล็บหลุด

เวลาฝนตก มีมีดอันเล็กๆที่พกไว้วิ่งไปตัดใบกล้วยมาบังฝน

ผ่านสวนยาง ที่มีสับปะรด เวลาหิวก็ใช้มีดปอกกิน เจอผักกูด ก็เก็บไปขายให้ครูที่โรงเรียน ได้กำละสามบาทห้าบาท เวลากินข้าวกลางวัน เลือกไปล้างจานก่อน เพื่อนกินเสร็จถึงได้กิน เพราะกินข้าวฟรี

เป็นเด็กยากจน แต่เรียนดี ความประพฤติก็ดี ทุกปีครูให้เป็นหัวหน้าชั้น

ขึ้น ป.3 ปิดเทอมภาคฤดูร้อน ไปบวชเณรอยู่ที่วัดมะนาวหวาน ถึงเวลาเพื่อนก็สึกหมด ครูก็มาตามให้กลับไปเรียน ก็ไม่ยอมสึก เรียนนักธรรมสอบได้นักธรรมโท ตอนนั้นอายุได้ 14 ปี ก็เกิดคิดถึงพ่อ ออกตามหาพ่อ

นั่งสองแถวไปลงตัวเมืองนคร โยมที่ขับรถตู้ถามเณรไปไหน บอกว่าไปหาพ่อ โยมก็ไม่เก็บค่ารถ ทั้งยังถวายเงิน 100 บาท

ไปถึงหาดใหญ่ก็ไม่รู้ไปจำวัดตรงไหน ต่อสองแถวไปสงขลาลงหน้าวัดเขาแก้ว ต.เขารูปช้าง

เจ้าอาวาสท่านเอ็นดูให้อยู่ มีหลวงตาพาบิณฑบาตและรับปากพาหาพ่อ แต่ข้อมูลเรื่องพ่อ รู้แต่ชื่อ “นง” ที่อยู่ก็เลือนราง ไปหาที่ไหน ก็ไม่เจอ แต่สามเณรก็ยังตั้งใจตามหาพ่อต่อๆไป

หลวงพ่อให้เงินมา 2,000 บาท บอกให้กลับบ้านไปถามแม่ให้ดีว่าพ่ออยู่แถวไหน

กลับไปถามโยมแม่ ก็จึงได้รู้ว่าโยมพ่อเคยอยู่แถวเพิงรางรถไฟหาดใหญ่ แต่ไปหาก็ไม่เจอ กลับถึงวัด โยมพ่อก็ตามมาที่วัด โยมพ่อทำงานก่อสร้าง ต่อมาก็สึกมาอยู่กับพ่อ ทำงานก่อสร้าง

ไม่มีงาน ชวนพ่อกลับมาอยู่กับแม่ที่นครศรีธรรมราช เกิดเรื่องทะเลาะกับพ่อ หนีออกจากบ้านตอนเที่ยงคืน เดินไปถึงตลาดจันดี ได้งานที่โรงจอกยาง ได้ค่าแรงวันละไม่กี่บาท ทั้งค่าแรงได้บ้างไม่ได้บ้าง

“งานหนัก ต้องยกลังขึ้นลง ต้องเสริมแรงด้วยการกินยาม้า กลับไปบ้านไม่มียาม้า เหมือนจะบ้า นึกในใจสงสัยเพราะยา เลยหักใจไม่แตะอีก”

ชีวิตเดี่ยวโลดแล่นต่อไป ตั้งใจจะเข้ากรุงเทพฯ แต่พอถึงชุมพรก็ถูกชวนให้ไปออกเรืออวนลาก ยังไม่ทันได้ออกทะเล ไปนั่งท่าเรือ มัวแต่นั่งแกว่งขา ก็รู้สึกแปล๊บที่ขา เรือหนีบขาเป็นแผลยาวใหญ่ คิดว่าไม่ต้องไปแล้วก็จะกลับบ้าน แต่ไม่ได้ เพราะคนกลางเขาเอาหัวคิวไปแล้ว ต้องไปลงเรือ

ในเรืออวนลากมีเครื่องยนต์ 2 เครื่อง เวลานอนร้อนมาก ต้องขึ้นไปนอนบนหลังคา...ก็หนาวแผลที่ขาเริ่มปวด ยิ่งโดนน้ำเค็ม ก็เน่า เห็นคนในเรือฉีดผงขาวก็กลัว

ครบ 8 วัน เรือก็เข้าฝั่ง เอาปลาขึ้นรถ หลบไปเข้าห้องน้ำออกมา หนีจากเรืออวนลาก กลับจันดีไปขายผ้า งานไม่ดี ย้อนไปทำที่โรงงานจอกยาง ทำงานหนักจนเยี่ยวเหลืองสีเหมือนเลือด เขาว่าเป็นดีซ่าน ผัวเมียคนอีสานตัดตะไคร้มาต้มให้กิน ปรากฏว่า...หาย

ตัดสินใจมุ่งหน้ามากรุงเทพฯอีกที อยู่กับพี่แถวโรงงานกระดาษ ซอยประดู่ 1 ได้ค่าแรงวันละ 70 บาท มีข้าวให้ กับข้าวซื้อเอง ที่พักยุงเยอะต้องนอนเลี้ยงยุงทุกคืน

ออกไปอยู่บริษัทเจียระไนเครื่องเงิน แถววงเวียนใหญ่ แล้วไปทำงานเป็น รปภ. อยู่ 4 เดือน ทำงานไม่ได้เงิน พอทวงถามก็โดนซ้อม

“วันนั้นมีมีดพกอยู่ที่เอว” เดี่ยวเล่า “ถ้าคุมสติไม่อยู่อาจชักมีดแทงเขาตาย ตัดสินใจเดินออกมา อโหสิ ให้หมดกรรมชาตินี้”

จากนั้นก็ไปทำงานก่อสร้าง อ๊อกเชื่อมเหล็ก โครงหลังคา ค่าแรงดีวันละ 250 ทำสองวันเบิกทีได้ 500 เก็บเงินได้ แต่ก็คิดว่างานนี้ไม่มีอนาคต ทำมามาก ทำมาหลายอาชีพเต็มที จนอายุ 18 ปี จึงหยุดที่ขับแท็กซี่

ขับแท็กซี่ เดี่ยวว่าบางวันได้ บางวันก็ไม่ได้ รู้จักชีวิตคนมากขึ้น เริ่มรู้ทางมากขึ้น เก่งขึ้น เงินก็เหลือมากขึ้นๆ นอนวัน 6-7 ชั่วโมง บางทีลงจากรถเดินเซ ตอนนั้นวิ่ง 10 วันได้หมื่นกว่า เดือนหนึ่งได้ 4 หมื่นกว่า

ได้เงินมากพอเลี้ยงตัวได้ จึงเริ่มคิดถึงอดีตที่เคยบวชเณร มีพระเมตตาอุ้มชูดูแล ความคิดรับส่งพระ เณร แม่ชีฟรี เริ่มมาจาก
ตรงนี้เอง

ถึงวันนี้ เดี่ยวเป็นหนึ่งในแท็กซี่จิตอาสา TRS 99.5 โครงการช่วยเหลือสังคม สถานีจราจรเพื่อสังคม ภายใต้การดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

ใครโทร.มา เดี่ยวมักจะบอกว่า ไม่ว่าคุณจะรวย หรือจน ผมให้เท่ากัน คือให้ฟรี

ใกล้ 4 ทุ่ม เวลานัดหมายเดิม เสียงโทรศัพท์ดังเข้ามา เดี่ยวขอตัวไปจดรายละเอียดเพื่อรับผู้โดยสารของวันต่อไป เขาย้ำคำ “ยินดีช่วยเหลือให้บริการฟรี จองคิวไว้ก่อน 08-7331-5421 ขอบคุณที่เปิดโอกาสให้ผมได้ทำความดี”.

หางานตามสาขาอาชีพ

JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved

jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด DBD

Top